วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลสำรวจไอดีซี ไตรมาส 2 ปี 2011 ระบุ "เอซุส" แซงยักษ์ไอทีจากอเมริกา ขึ้นแท่นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กอันดับ 2 เมืองไทย

“เอซุส” สุดปลื้มหลังไอดีซีรายงานผล 10 อันดับผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กในเมืองไทย “เอซุส” ขึ้นแท่นผู้นำตลาดอันดับ 2 ครองส่วนแบ่งตลาดรวม 13% วางเป้ายอดขายปี 54 เติบโตเพิ่มขึ้น 70%

26649[1]

 


นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ตลาดโน้ตบุ๊กของเอซุสประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เราสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กอันดับ 2 ในเมืองไทย มีส่วนแบ่งตลาดรวมอยู่ที่ 13% โดยช่วงไตรมาสที่ 2 ทำยอดขายได้จำนวน 83,000 เครื่อง ข้อมูลจากรายงานผลของบริษัทพัฒนาและสำรวจข้อมูลทางไอทีชั้นนำอย่างไอดีซี (IDC) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
“เราทราบถึงความสำเร็จของเรามาตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 แล้ว แต่รอผลการประกาศจากไอดีซีอย่างเป็นทางการก่อน จึงแจ้งข่าวให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อให้ลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่านเชื่อมั่นและไว้วางใจในคุณภาพของสินค้า เอซุส ที่ให้บริการแก่คนไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี” นายพรเทพ กล่าว
นายพรเทพ กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่มีส่วนช่วยให้โน้ตบุ๊กเอซุสสามารถขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ได้สำเร็จเพราะบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการออกแบบมาโดย ตลอด อาทิเช่น SonicMaster สุดยอดเทคโนโลยีแห่งเสียง ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอซุสที่ทำให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงเสียงเอฟเฟกต์และเซอร์ ราวด์อันทรงพลังและสมจริงราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว 
ขณะเดียวกันในเมืองไทยเรามีช่องทางจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั้งในกรุงเทพและ ต่างจังหวัด ซึ่งในปีนี้เราพยายามที่จะเพิ่มช่องทางการขายสู่ระดับอำเภอและตำบล ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัดให้มากขึ้น

pr-asus-IDC-q2-2011[1]

จากภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กที่ขยายตัวประมาณ 15 – 20 % เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กและเกมออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทใน การดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้น ประกอบกับเอซุสสามารถรุกเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กจากบริษัทคู่แข่ง เพิ่มมากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าในปี 2554 นี้ เอซุสจะผลักดันยอดขายโน้ตบุ๊กให้เติบโตเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปี 2553 ได้สำเร็จ
“บริษัทมุ่งเดินหน้าทำตลาดสินค้าโน้ตบุ๊กอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมทางการ ตลาดหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษและข้อเสนอด้านบริการหลังการขายที่มีมาตรฐานเพื่อ ดึงดูดใจลูกค้า โดยคาดหวังว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นในช่วงปิดปี 2554 นี้” นายพรเทพ กล่าวทิ้งท้าย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น